วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เทคโนโลยี 3G

เทคโนโลยี 3G คือ
3G หรือ Third Generation เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 อุปกรณ์การสื่อสารยุคที่ 3 นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสาน การนำเสนอข้อมูล และ เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกัน เช่น PDA โทรศัพท์มือถือ Walkman, กล้องถ่ายรูปและอินเทอร์เน็ต 3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องจากยุคที่ 2 และ 2.5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง แล ะ การส่งข้อมูลในขั้นต้น ทั้งยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การพัฒนาของ 3G ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดีย และ ส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น
ยุค 3G เป็นยุคแห่งอนาคตอันใกล้ โดยสร้างระบบใหม่ให้รองรับระบบเก่าได้ และเรียกว่า Universal Mobile Telecommunication Systems (UMTS) โดยมุ่งหวังว่า การเข้าถึงเครือข่ายแบบไร้สาย สามารถกระทำได้ด้วยอุปกรณ์หลากหลาย เช่น
จากคอมพิวเตอร์
จากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
ระบบยังคงใช้การเข้าช่องสัญญาณเป็นแบบ CDMA ซึ่งสามารถบรรจุช่องสัญญาณเสียงได้มากกว่า แต่ใช้แบบแถบกว้าง (wideband) ในระบบนี้จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า WCDMA
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริษัทบางบริษัทแยกการพัฒนาในรุ่น 3G เป็นแบบ CDMA เช่นกัน แต่เรียกว่า CDMA2000 กลุ่มบริษัทนี้พัฒนารากฐานมาจาก IS95 ซึ่งใช้ในสหรัฐอเมริกา และยังขยายรูปแบบเป็นการรับส่งในช่องสัญญาณที่ได้อัตราการรับส่งสูง (HDR-High Data Rate) การพัฒนาในยุคที่สามนี้ยังต้องการความเกี่ยวโยงกับการใช้งานร่วมในเทคโนโลยีเก่าอีกด้วย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงให้ใช้งานได้ทั้งแบบ 1G และ 2G โดยเรียกรูปแบบใหม่เพื่อการส่งเป็นแพ็กเก็ตว่า GPRS – General Packet Radio Service ซึ่งส่งด้วยอัตราความเร็วตั้งแต่ 9.06, 13.4, 15.6 และ 21.4 กิโลบิตต่อวินาที โดยในการพัฒนาต่อจาก GPRS ให้เป็นระบบ 3G เรียกระบบใหม่ว่า EDGE - (Enhanced Data Rate for GSM Evolution)
เทคโนโลยีในยุคที่ 3 เรื่องความเร็วในการรับ - ส่งข้อมูล โดยเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง ทำให้สามารถใช้บริการ Multimedia ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ มีประสิทธิภาพแบบมากยิ่งขึ้น เช่น การรับ - ส่ง File ขนาดใหญ่, การใช้บริการ Video Conference, Download เพลง, ดู TV ในลักษณะแบบ Streaming เป็นต้น
ที่มา http://www.med.cmu.ac.th/eiu/informatics/Literacy/computer/3g/what%203g.html

บริการต่างๆของ Google

ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้สำหรับบริการประเภทต่างๆ ของ Google ซึ่งได้แก่
Google Apps for Business อันได้แก่เวอร์ชันสำหรับองค์กรของ Gmail, ปฏิทิน, ไดรฟ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
สามารถดูแอปพลิเคชันที่ใช้ได้จาก Google Apps Marketplace
บริการอื่นๆ ของ Google อันได้แก่ บล็อกเกอร์, YouTube, และอื่นๆ อีกมากมาย
ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดบริการสำหรับทั้งองค์กรหรือหน่วยขององค์กร ตัวอย่างเช่น ในการปิด Google+ เฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่เป็นพนักงานชั่วคราว ให้สร้างหน่วยขององค์กรสำหรับพนักงานชั่วคราวขึ้น โดย
ประกอบด้วยผู้ใช้เหล่านี้ และปิด Google+ สำหรับหน่วยขององค์กรดังกล่าว
มีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้:
วิธีควบคุมการเข้าถึงบริการต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามส่วนติดต่อผู้ใช้ของคอนโซลการดูแลระบบ (ฉันใช้คอนโซลการดูแลระบบแบบไหน)
บริการบางอย่างอาจขึ้นอยู่กับบริการอื่น ตัวอย่างเช่น Google+ จะขึ้นอยู่กับปฏิทิน, ไดรฟ์, Talk และ Picasa กล่าวคือคุณไม่สามารถเปิด Google+ ถ้าบริการอื่นเหล่านี้ไม่เปิดอยู่
การเปิด/ปิดบริการอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงจึงจะมีผล
ในการควบคุมการเข้ัาถึงบริการสำหรับผู้ใช้รายเดียว ให้สร้างหน่วยขององค์กรที่มีเพียงผู้ใช้รายนั้น
ที่มา https://support.google.com/a/answer/182442?hl=th

FTp (file transfer protocol)

FTP (File Transfer Protocol)
เป็นโปรโตคอลมาตรฐานในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแลกเปลี่ยนไฟล์ ระหว่างคอมพิวเตอร์บนอินเตอร์เน็ต คล้ายกับ Hypertext Transfer Protocol (HTTP) ที่ใช้ในการส่งเว็บเพ็จและไฟล์ที่เกี่ยวข้อง และ Simple Mail Transfer Protocol (SMPT) ที่ใช้ส่งผ่าน e-mail ซึ่ง FTP เป็นโปรโตคอลประยุกต์ที่ใช้โปรโตคอล TCP/IP โดย FTP ใช้ในการส่งไฟล์เว็บเพจจากแหล่งที่เก็บไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยแสดงฐานะเป็นเครื่องแม่ข่าย สำหรับทุกคนบนอินเตอร์เน็ต และนิยมใช้ในการ download โปรแกรมและไฟล์มายังเครื่องคอมพิวเตอร์จากเครื่องแม่ข่ายอื่น
ในฐานะผู้ใช้ การใช้ FTP สามารถใช้คำสั่งติดต่อแบบ command line (เช่นเดียวกับคำสั่งของ MS_DOS) web browser สามารถสร้างคำขอ FTP เพื่อ download โปรแกรมที่เลือกจากเว็บเพจนอกจากนี้ FTP สามารถใช้ปรับปรุงไฟล์บนเครื่องแม่ข่าย โดยต้อง logon ไปที่ FTP server การสนับสนุน FTP โดยพื้นฐานในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งโปรแกรมที่มากับ TCP/IP อย่างไรก็ตามโปรแกรม FTP แบบ client ที่มีการติดต่อแบบ GUI ต้อง download จากบริษัทที่ผลิต
ที่มา http://www.dstd.mi.th/board/index.php?topic=474.0

E-mail

ประโยชน์และความสำคัญของอีเมล์
อีเมล์จึงเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ทันสมัยรูปแบบหนึ่งที่มีความสำคัญ ดังนี้
1. ทำให้การให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วทันที ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค สำหรับอีเมล์ในทุกแห่งทั่วโลกที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อถึงกันได้ สามารถเข้าไปสถานที่เหล่านั้นได้ทุกที่ ทำให้ผู้คนทั่วโลกติดต่อถึงกันได้ทันที ผู้รับสามารถ
จะรับข่าวสารจาก อีเมล์ได้แทบจะทันทีที่ผู้ส่งจดหมายส่งข้อมูลผ่านทางคอมพิวเตอร์เสร็จสิ้น
2. สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับที่ต้องการได้ทุกเวลา แม้ผู้รับจะไม่ได้อยู่ที่หน้าจอ คอมพิวเตอร์ก็ตาม จดหมายจะถูกเก็บไว้ในตู้จดหมายของคอมพิวเตอร์และเป็นส่วนตัว จนกว่า เจ้าของจดหมายที่มีรหัสผ่านจะเปิดตู้จดหมายของตนเอง
3. สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลายๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลาส่งให้ ทีละคน กรณีนี้จะใช้กับจดหมายที่เป็นข้อความเดียวกัน เช่น หนังสือเวียนแจ้งข่าวให้สมาชิกใน กลุ่มทราบหรือเป็นการนัดหมายระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เป็นต้น
4. ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งจดหมายถึงตู้ไปรษณีย์ หรือที่ทำการไปรษณีย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง เนื่องจากไม่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำหนัก และระยะทางของจดหมายเหมือนกับไปรษณีย์ธรรมดา
5. ผู้รับจดหมายสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก ซึ่งจะทำให้ทราบว่าใน ตู้จดหมายของผู้รับมีจดหมายกี่ฉบับ มีจดหมายที่อ่านแล้ว และยังไม่ได้เรียกอ่านกี่ฉบับ เมื่ออ่าน จดหมายฉบับใดแล้ว หากต้องการลบทิ้งก็สามารถเก็บข้อความไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลได้ หรือจะพิมพ์ออกมาลงกระดาษก็ได้เช่นกัน
6. สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล (Transferring Files) แนบไปกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้การแลกเปลี่ยนข่าวสาร เป็นไปได้ โดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์ จากความสำคัญของอีเมล์ที่สามารถอำนวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่า นี้ ทำให้ในปัจจุบันอีเมล์แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานทุกแห่งทั่วโลกที่ทำให้สมาชิกในชุมชนโลกสามารถติดต่อกันผ่านทาง คอมพิวเตอร์ได้ในทุกที่ทุกเวลา
ที่มา http://www.tsu.ac.th/cst/course/basic_computer/email2.html

Game Online กับการศึกษา

ข้อดีหรือประโยชน์ในการเล่นเกมออนไลน์ - บทความที่มีประโยชน์ ถ้าเป็นไปได้สต๊าฟช่วยเน้นสีของชื่อกระทู้ทีนะคะ ก่อนอื่นเลย ต้องขอยกเครดิตให้ พี่เฟิร์นแห่งบอร์ด MUNDEE ด้วยนะคะ[Fernnieจากคอลั่ม ฟ.เฟิร์นหลุดเฟรม ในหนังสือลิเนจ2รายสัปดาห์ญี่ห้อหนึ่ง] พอดีได้อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันทีเลยค่ะ จะมีซักกี่คนที่ทำได้ทั้งหมดนี้ แล้วจะมีซักกี่คนที่อ่านบทความนี้จนจบ
ข้อดีหรือประโยชน์ในการเล่นเกมออนไลน์
1. เพิ่มทักษะและความสามารถในการพิมพ์ดีด มีเด็กที่เริ่มเล่นเกม จากการไม่เคยสัมผัส แป้นพิมพ์มาก่อนเลย ไม่เคยเรียนพิมพ์ดีด แต่ทุกคนสามารถพิมพ์ดีดได้คล่องแคล่วหลังจากเล่นเกม เพราะเกิดจากความคุ้นเคยนั่นเอง
2. ฝึกการวางแผน สำหรับเกมประเภทวางแผน และการวางแผนการเล่นในเกมทั่วๆไป ตั้งแต่การเลือกตัวละคร วางแผนการหาสถานที่ หรือฉาก ในการเก็บเลเวล ให้เหมาะสม เพราะถ้าเลเวลน้อยแล้วไปเก็บในฉากยาก ก็ไม่ได้ ..และการเก็บเลเวลในฉาก ที่เหมาะสม หรือสู้กับมอนสเตอร์ ที่เหมาะสม จะทำให้เลเวลขึ้นเร็ว ทำให้เราเก่งเร็วขึ้น รวมถึงเกม โกะ ออนไลน์ ที่เป็นเกมกีฬาประเภทวางแผนอยู่แล้ว
3. ฝึกการทำงานเป็นทีม และรู้จักแบ่งหน้าที่ เพราะตัวละครแต่ละตัว มีจุดเด่น หรือมีความเก่งกาจ ต่างกันออกไป เช่น เล่นเป็นอาชีพพ่อค้า ก็จะต่อสู้ไม่เก่ง แต่จะเด่นด้านค้าขาย ซื้อของได้ราคาถูก หาเงินเข้าทีมได้เยอะ ส่วนอาชีพไฟท์เตอร์ก็เด่นด้านต่อสู้ มีความอดทน ต้องเป็นกองหน้าให้เพื่อนๆ ส่วน อาชีพอื่น ที่อ่อนแอกว่า เช่น อาชีพ วิซาร์ด หรือนักเวทย์ ที่สามารถโจมตีได้รุนแรง โจมตีระยะไกล แต่พลังป้องกันต่ำ จะตายได้ง่าย จึงต้องมี ไฟท์เตอร์คอยกันด้านหน้า
4. ฝึกทักษะ ทางด้านการค้า ทักษะด้านการค้า สามารถฝึกได้ในหลายๆเกม แต่จะสมจริงมากที่สุดในเกม แรคนารอคออนไลน์ - ตั้งแต่ความสามารถของอาชีพพ่อค้าแม่ค้า ที่ซื้อของจาก npc (ตัวละครในเกม) ในราคาถูกกว่าอาชีพอื่นๆ และสามารถนำมาตั้งร้านเป็นของตัวเอง เพื่อเก็งกำไรขายต่อได้ - รวมถึงการตั้งร้านรับซื้อของ ที่อาชีพอื่นๆหามาได้ - ฝึกคำนวณราคาต้นทุนที่ซื้อมา และราคาขาย - การตั้งชื่อร้านโฆษณาให้ดึงดูดใจลูกค้า - การบริการหรือคุยกับลูกค้า ผูกมิตร ให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและเป็นลูกค้าประจำ - การรับซื้อของร้อน(ในที่นี้คือ รับซื้อของที่ผู้ขายต้องการขายเพราะต้องการเงิโดยด่วน มักจะต้องเสนอราคาแข่งกับร้านอื่นๆ ให้ได้ราคาที่เหมาะสมตามต้องการ) - การปั่นราคา Item หรือราคาสินค้า ทั้งนี้ต้องดูราคาตลาดโดยรวม เพื่อ ให้ราคาสินค้านั้นๆสูงขึ้นเมื่อของหายาก ในขณะเดียวกัน สินค้าที่เริ่มมีมาก จนล้นตลาด ราคาจะถูกลง - การรับจ้างหาเงินในรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เช่น อาชีพ priest สามารถ เปิดวอร์ป warp คือการเคลื่อนย้าย บุคคลไปยังเป้าหมายหรือสถานที่ที่ ต้องการ เพียงวินาทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นไปทีละคน หรือไปเป็นทีม ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเดินหรือวิ่งไกลๆ จึงสามารถ เปิดเป็นบริการขาย Warp ได้ ซึ่งข้อนี้เปรียบเสมือนการมองช่องทาง หรือสร้างโอกาสทางธุรกิจ
- การเก็งราคาสินค้า เด็กๆที่มีความสามารถด้านการค้า จะมองการณ์ไกล ว่าต่อไปจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามา หรือสินค้าตัวไหน ที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคตอันใกล้ จึงมีการกักเก็บสินค้าไว้ในโกดัง เพื่อเก็งราคาสินค้าให้ได้ราคาดี *รายละเอียดเรื่องการค้าขาย ที่ได้จากการเล่นเกมนี้ ยังมีอีกเยอะ ซึ่งเด็กๆ ที่เล่นเกมนี้ โดยมีผู้ปกครองชี้แนะ จะได้ประโยชน์หรือทักษะด้านการค้า การหาโอกาสทางการค้า การสังเกต demand&supply ได้มากเลยทีเดียว
5. ฝึกการเข้าสังคม เนื่องจากเกมออนไลน์เป็นเกมที่ต้องเล่นกับผู้อื่น จึงต้องมีการปรับตัว มีการทักทาย เพื่อทำความรู้จักเพื่อนใหม่ เด็กต้องรู้จักที่จะทักทายผู้อื่นก่อน การให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะต้องเล่นเกมด้วยกัน
6. ฝึกการขอโทษ และให้อภัยผู้อื่น การเล่นเกมออนไลน์ ต้องเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ล็อคอิน เข้าสู่เกม มาเล่นด้วยกันเป็นจำนวนมาก หลายๆคน อาจมีจุดประสงค์เดียวกัน มีการกระทบกระทั่งกันด้วยความไม่ตั้งใจ เช่น - นักเวทย์ กำลังยิงมอนสเตอร์อยู่ขณะที่กำลังร่ายเวทย์อยู่นั้น นักธนูซึ่งอยู่ใกล้กว่ามองไม่เห็น จึงยิงมอนสเตอร์ตัวเดียวกัน ในกรณีนี้ ต้องยอมให้อภัยกัน เพราะเกิดจาก ความ ไม่ ตั้งใจ - หรือบางคนไปสู้มอนสเตอร์ด้วยกันเป็นกลุ่ม หรือเป็นปาร์ตี้หมู่คณะ ขณะชุลมุนเกิดความงง จึงไปตีเอามอนสเตอร์ที่อีกกลุ่มหนึ่งกำลังตีอยู่ ผู้มาทีหลัง คือคนทีมาแจม ชาวบ้านเค้า ต้องกล่าวคำ “ขอโทษ” และผู้ที่ตีอยู่ก่อน ก็ต้องรู้จักให้อภัย เพราะเค้าไม่ได้ตั้งใจ เป็นต้น
7. ฝึกที่จะเป็นคนมีน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือผู้เล่นใหม่ ไม่เห็นแก่ตัว บ่อยครั้งที่เห็นผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มเล่น ไม่เข้าใจในตัวเกม หรือ การใช้คำสั่งบนแป้นพิมพ์ ว่าต้องกดสั่งอย่างไร มีข้อสงสัยในเกม ต่างๆนานา และมีผู้เล่นที่มีน้ำใจ ตอบคำถาม ให้คำปรึกษา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกิดจากความมีอัธยาศัยดี แต่ก็มีเช่นกัน สำหรับผู้เล่นที่ไม่มีน้ำใจ และเห็นแก่ตัว เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันปลูกจิตสำนึก
8. ฝึกมารยาทในการเข้าสังคม และความอดกลั้น ผู้เล่นสามารถเล่นเกม และฝึกตนเองให้เป็นคนมีมารยาทในการเข้าสังคม ไม่ว่าจะเป็นการทักทายด้วยวาจาสุภาพกับคนที่เพิ่งรู้จัก การพูดคำ “ขอบคุณ” เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น เช่น - ขณะที่ผู้เล่นคนหนึ่งกำลังตีมอนสเตอร์อยู่นั้น บังเอิญถูกรุม และใกล้จะแย่ ก็มีคนมาช่วยรักษา ช่วยฮีลเพิ่มเลือด หรือค่า hp ให้ ควรฝึกให้เป็นนิสัยในการ กล่าวคำว่า “ขอบคุณ” - แต่ในขณะเดียวกัน สังคมเกมออนไลน์ก็เหมือนสังคมโลกภายนอก มีคนดี ย่อมมีคนไม่ดี หากมีคนพูดจาไม่ดี ผู้เล่นก็สามารถเลือกที่จะ อดกลั้น ต่อคำพูดไม่ดีนั้น และกล่าวคำที่ดีออกไป ทำให้เค้ารู้สึกผิด ที่พูดจาไม่ดี แทนที่จะกล่าวคำไม่ดีเช่นกัน อย่าลืมว่าการใช้ชีวิตในสังคมของโลกในเกม ก็เหมือนโลกในชีวิตจริง เหมือนสังคมที่ทำงาน สังคมที่โรงเรียน และอื่นๆ
9. ฝึกปฏิบัติตนตามกฎกติกาของสังคม ทุกเกม มีกฎกติกามารยาทเป็นของแต่ละเกม ถ้าจะมองให้ดี มีทั้งกฎที่เป็นเหมือนกฎหมายของเกม เช่น ห้ามทำร้ายกัน หากคุณทำร้ายผู้อื่นจนตาย คุณก็จะถูกทุกคนในสังคมเกม รุมทำร้ายจนตายเช่นเดียวกัน แต่ของดี ไอเทมในตัวจะตกอีกต่างหาก เป็นต้น
แต่ในกฎที่เสมือนเป็นกฎทางสังคม ก็มี ใครจะเลือกปฏิบัติก็ได้ แต่ผู้เล่นที่ละเมิดกฎทางความคิดที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี ถูกประณาม และไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย เช่น
- การเก็บของที่ไม่ใช่ของของตนเอง เก็บต่อหน้าต่อตาเจ้าของ ซึ่งโดยปกติผู้ที่ตีมอนสเตอร์แล้วของหรือไอเทมต่างๆ ตกลงมาต้องเป็นผู้ครอบครองของสิ่งนั้น ผู้เล่น ที่ไม่ได้ตีมอนสเตอร์แต่วิ่งไปเก็บของเค้ามา ภาษาในเกม เรียกว่า “การลูท” ถือว่าผิดกติกาสังคม เป็นต้น
10. ทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ เกิดมิตรภาพที่ดี
เนื่องจากการไปเก็บเลเวล ต้องไปด้วยกัน ช่วยเหลือกัน เป็นทีม เกิดความเห็นอกเห็นใจกัน จึงทำให้ผู้เล่นที่คุ้นเคยกัน เกิดมิตรภาพที่ดีต่อกัน ผู้เล่นจำนวนมากที่เจอกันตามงานที่ค่ายเกมแต่ละเกมจัด แล้วได้พบปะเจอตัวจริง พูดคุยกันกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในโลกแห่งความเป็นจริง
11. รู้จักหักห้ามใจในของที่ไม่ใช่ของของตน
หลายๆครั้ง ที่ผู้เล่นมีโอกาสได้ของที่หายาก และราคาแพงในเกม แต่เนื่องจากการตกลง ที่เกิดขึ้นในทีม หรือ เพราะกติกาสังคมที่มีอยู่ ก็ต้องหักห้ามใจ ที่จะไม่เก็บของสิ่งนั้นมาเป็นของตัวเอง เช่น a. เห็นผู้เล่นท่านอื่นพลาดท่าจากการโจมตีมอนสเตอร์ ของดีในตัวตก ทำอะไรไม่ได้ คนที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่ควรไปหยิบของของเค้า แล้วหนีไปถือเอาเป็นของตนเอง ทางที่ดีควรเก็บของและคืนให้เจ้าของจะดีกว่า
b. การไปเป็นหมู่คณะร่วมกันต่อสู้ ของที่ตกจากมอนสเตอร์ จะเข้าสู่ตัวผู้เล่นตามตกลงโดยอัตโนมัติ เช่น ตามลำดับรายชื่อ หรือสุ่ม แต่หากในกลุ่มมีการตกลงกัน ว่าใครที่ได้ของดี 2 ชิ้น ให้โอนชิ้นหนึ่ง ให้เพื่อนที่ยังไม่ได้ ผู้เล่นที่ได้ของดีดังกล่าว ก็ต้องทำตามที่ได้พูดคุยกันไว้ “ถือว่าเป็นการรักษาคำพูด” และรู้จัก “หักห้ามใจ”
12. ฝึกสมาธิ เกมสามารถ ฝึกสมาธิให้เราได้เป็นอย่างดี เช่นประเภท เกมกีฬา เช่น ปังย่า (เกมกอล์ฟ) ทำให้เรารู้จักกติกาเกมกอล์ฟเสมือนจริง ฝึกสมาธิในการตีลูก ฝึกการคาดคะเน ความแรงในการตี ต้องใช้สมาธิมาก หรือเกม O2Jam เป็นเกมประเภทดนตรี ต้องกดปุ่ม ถึง 8 ปุ่ม ให้เข้าจังหวะ ตามเพลงที่เลือก ต้องใช้สมาธิอย่างมาก เพราะถ้าพลาด 1 ตัวแล้วอาจจะรวน เพราะความตกใจ ต้องควบคุมอารมณ์ ให้นิ่ง ถือเป็นการฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดีทีเดียว
12.ฝึกทักษะความสัมพันธ์ระหว่าง มือ และตา ความรอบคอบ ข้อนี้ สามารถฝึกได้ทั้ง เกมปังย่า (เกมกอล์ฟ) และเกม O2Jam (เกมดนตรี) เพราะการเล่นสองเกมนี้นอกจากต้องอาศัยสมาธิแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะความสัมพันธ์ ระหว่าง การมอง และการกดแป้นพิมพ์ และต้องใช้ความรอบคอบและเก็บรายละเอียด ช่างสังเกต เช่น - เกมปังย่า (เกมกอล์ฟ) ต้องรู้จักสังเกต ทิศทางลม ความแรงลม ความลาดเอียงของพื้นที่ และต้องคำนวนระยะทาง กับความแรงที่เราจะตีลูกกอล์ฟออกไป ให้ตรงจุดหมาย เป็นต้น - เกม O2Jam มีข้อดีดังนี้
1. เรียนรู้เรื่องจังหวะเพลง
2. ตัวโน๊ต ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับตัวโน๊ต จะทำให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้นและทักษะนี้สามารถฝึกได้
3.ฝึกประสาทสัมผัส การได้ยิน มือ ตา ฟัง และความคล่องแคล่วของนิ้ว
4.รู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนานไปตามเสียงเพลง
5.ได้รู้จักเพื่อนๆที่มีใจรักเสียงเพลง เพื่อนคอเดียวกัน
6.ฝึกสมาธิ ควบคุมตนเอง
7.แข่งกับตนเอง พัฒนาทักษะไปเรื่อยๆ
12. ฝึกความอดทน ความพยายาม บางอย่างในเกมก็ไม่ง่าย ต้องอาศัยความพยายาม เพราะต้องใช้เวลา และเก็บรายละเอียด ทำให้ผู้เล่นต้องมีความอดทนและความพยายาม เช่น การทำเควส หรือการปฎิบัติภารกิจ ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อที่จะได้เลื่อนขั้น เลื่อนยศ
13.รู้จักค่าของเงิน เก็บหอมรอมริบ การจะได้อะไรสักอย่างในเกม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาวุธ จะต้องมีเงินในเกม เพราะฉนั้น ต้องรู้จักเก็บเงิน ที่อาจจะได้มาครั้งละน้อยๆ รวบรวมให้เป็นเงินก้อน หรือนำของที่เก็บได้ไปขาย เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อของที่ต้องการ
13. ฝึกให้เป็นคนเสียสละ บางเกมการทำภารกิจ ให้กลุ่มของตนเองได้เลื่อนขั้นต้องมีข้อแม้ความลำบากมากมาย เช่นต้องไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เก่งๆ บางครั้งหัวหน้าทีม ต้องยอมสละ ค่า sp ที่ตนสะสมมาตลอดชีวิต หรือบางเควส ลูกทีมต้องยอมเสียสละ เลเวลตนเอง ที่กว่าจะเลื่อนได้แต่ละ เลเวลช่างยากเย็นนัก และลูกทีมต้องมีการสละเงินให้ทีมด้วย
14.จุดประกายให้อยากเป็นนักพัฒนาเกม ผู้เล่นหลายคนที่ เล่นเกมแล้วเกิดไอเดีย อยากมีเกมของตัวเอง อยากเรียนคอมพิวเตอร์ และเป็นนักพัฒนาเกม หรือทำ เอนิเมชั่น ซึ่งถือว่าเป็นการจุดประกาย เป็นการเริ่มต้นที่ดี
14. เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ผู้เล่นหลายคน ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากจุดที่ตนสนใจในเกม เช่น ในเกม TS online มีตัวละครในเรื่อง 3 ก๊ก อยู่ด้วย เด็กๆ จึงไปอ่านวรรณกรรมเรื่องสามก๊กเพิ่มเติม เพราะอยากรู้ว่า ตัวละครไหนเก่งกว่ากัน ใครชนะใคร และเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร เพราะเนื้อเรื่องในวรรณกรรมนั้นเกี่ยวเนื่องกับเนื้อเรื่องในเกมด้วยเช่นกัน
เกมข่านออนไลน์ มีฉากที่เป็นประวัติศาสตร์ ยุคข่าน ของเมืองจีน
เกมแรคนารอคออนไลน์ มีกำแพงเมืองจีน เมืองอโยธยา ชื่อเซอร์เวอร์เป็นชื่อของเทพเจ้าในตำนาน ของกรีก
เกมมังกรหยก มีตัวละคร สำนัก ต่างๆ เหมือนในวรรณกรรมเรื่องมังกรหยก ฉากต่างๆเป็นฉากของเมืองจีน มีการทำการค้า วิถีชีวิตที่สอดแทรกลงไป เช่น การทำประมง การทำการค้า เป็นต้น
15.ทำให้มีเพื่อนต่างชาติ ฝึกภาษา เช่นเกม โกะออนไลน์ สามารถเล่นกับเพื่อนต่างชาติได้สดๆ สามารถพูดคุยฝึกภาษาได้ด้วย
ที่มา http://www.gamer-gate.net/index.php?a=bbs&b=view&id=20674

ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้านต่างๆ

ประโยชน์และตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้คนในสังคมมีการติดต่อสื่อสารถึงกันได้ง่ายและรวดเร็ว มีการทำกิจกรรมหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกันง่ายขึ้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น
ด้านการศึกษา มือในการเพิ่มโอก่สทางด้านการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านการศึกษา
1. การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ทำให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลหรือไม่สะดวกในการเดินทางสามารถได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในเมือง
2. บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ภาษาต่างประเทศ ทำให้บทเรียนมีความน่าสนใจมากขึ้น และเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น การแสดงสถาณการณ์จำลอง แบบจำลอง ภาพเคลื่อนไหว แสงสีและเสียงประกอบ นักเรียนสามารถเตรียมตัวก่อนเรียน หรือทบทวนบทเรียนด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้ที่มีเวลาว่าง
3. บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้กับผู้พิการทางสายตาหรือหู

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทต่อการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี ทั้งในและนอกสถานศึกษา หน่วยงานต่างๆ ใช้บทเรียนออนไลน์ในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติม นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตยังเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่ทั้งครูและนักเรียนหรือบุคคลทั่วไป ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลเรื่องต่างๆ ในการทำรายงาน หรือเพื่อศึกษาหาความรู้ เว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลที่ใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น google.com, ask.com, dogpile.com และ wikipedia.org ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลจากหลักฐานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

การใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในครอบครัวของตนเอง

1.การใช้ word ในการพิมพ์งาน
2.การใช้ power point ในการเสนอรายงาน
3.การใช้ excel ในการคำนวน ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว


วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ

ความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่มีอยู่ในธรรม ชาติ เป็นกลุ่มสัญลักษณ์แทนปริมาณ หรือการกระทำต่างๆ ที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ หรือการประมวลผล ข้อมูลอยู่ในรูปของ ตัวเลขตัวหนังสือ รูปภาพ แผนภูมิ เป็นต้น สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการเปลี่ยนแปลง หรือจัดกระทำเพื่อผลของการ เพิ่มความรู้ ความเข้าใจของผู้ใช้ ลักษณะของสารสนเทศ จะเป็นการรวบรวมข้อมูลหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกันเพื่อจุดมุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 ส่วนคือ
1. ข้อมูล เป็นตัวเลข ข้อความ เสียงและภาพ เป็นข้อมูล ป้อนเข้า
2. การประมวลผล เป็นการกำหนดความสัมพันธ์ของข้อมูล จัดกระทำข้อมูล เพื่อ ให้เหมาะสมต่อการนำไปใช้
3. การจัดเก็บ เป็นวิธีการที่จะเก็บข้อมูลให้เป็นระบบที่สะดวกต่อการใช้ และ สามารถแก้ไขปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน
4. เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเก็บข้อมูล การประมวลผลทำให้เกิดผล ผลิต ได้แก่ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูป อุปกรณ์การสื่อสาร เป็นต้น
5. สารสนเทศ ผลผลิตของระบบสารสนเทศจะต้องถูกต้อง ตรงกับความต้อง การใช้ และทันต่อเหตุการณ์ใช้งาน
ที่มา http://blog.eduzones.com/noknik15clab/33086

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology หรือ IT คือ การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในระบบสารสนเทศ ตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บ ประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อช่วยให้ได้สารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจประกอบด้วย
1. เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมต่างๆ รวมทั้งซอฟท์แวร์ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานเฉพาะด้าน ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จัดเป็นเครื่องมือทันสมัย และใช้เทคโนโลยีระดับสูง (High Technology)
2. กระบวนการในการนำอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ข้างต้นมาใช้งาน เพื่อรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป เช่น การจัดเก็บข้อมูลในลักษณะของฐานข้อมูล เป็นต้น
ที่มา http://www.kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/04093009_2204/isweb/Lesson%2022.htm

ความหมายของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ประมวลผลข้อมูลเช่น pc notebook tablet smartphone netbook